นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำท่วมใหญ่ส่งผลให้ธนาคารปรับแผนปี 2555 โดยจะหันไปเน้นสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมบ้านและสินเชื่อเพื่อที่อยู่าศัยในกลุ่มคอนโดแทน เนื่องจากปีหน้ายังเป็นช่วงเร่งฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่จมน้ำ คาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อเพื่อซ่อมแซม 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในภาวะปกติธนาคารจะปล่อยสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมบ้านได้ 3-4 พันล้านบาทต่อปี แต่ในปีหน้าจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท โดยธนาคารจะลงมาเล่นตลาดผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านแลกเงิน โดยคาดว่าธนาคารจะปล่อยสินเชื่อบ้านแลกเงินได้ 2 หมื่นล้านบาทในปีหน้าจากปกติที่จะปล่อยได้ 2 พันล้านบาทต่อปี
นางพิกุลกล่าวว่า ทั้งนี้ จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารต้องมีการทบทวนราคาบ้านใหม่ ซึ่งเท่าที่ปรึกษากับบริษัทประเมินมองว่า ราคาบ้านในบริเวณน้ำท่วมจะลดลงประมาณ 10% และยังต้องมีการประเมินค่าเสื่อมเพิ่มเติมอีกด้วย รวมทั้งอาจจะต้องปรับแพคเกจประกันใหม่ด้วย
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ในปีหน้าตลาดคอนโดฯกำลังได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น โดยส่วนใหญ่ต้องการซื้อเป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ไว้ในยามฉุกเฉิน โดยพื้นที่ในกรุงเทพฯที่ได้รับความสนใจ มี 3 กลุ่มคือ กลุ่มรอบนอกกรุงเทพฯคือ คอนโดฯย่านบางนา สุวรรณภูมิ แบริ่งกลุ่มที่ 2 คือ พื้นที่รอบกลาง เช่น พระราม 9 ศรีนครินทร์ และกลุ่มที่ 3 พื้นที่ชั้นในคือพระราม 4 ลุมพินี อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่ได้รุกตลาดมาก แต่จะเน้นกระจายความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากตลาดคอนโดมีความเสี่ยงมากกว่าแนวราบ โดยจะเน้นคอนโดราคา1 ล้านบาทขึ้นไป เพราะราคาต่ำเสี่ยงสูง
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในปีหน้าธนาคารจะเน้นตลาดในกลุ่มคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งเป็นแผนที่ธนาคารวางไว้ก่อนจะเกิดน้ำท่วมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันธนาคารจะออกไปเน้นตลาดในกลุ่มต่างจังหวัด
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษาเรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่าลูกค้าตื่นตระหนกแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ล่าง ซึ่งทำงานในนิคมอุตสาหกรรมคงจะไม่คิดย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียม เชื่อว่ากลุ่มนี้ยังมีความต้องการบ้านแนวราบอยู่ ส่วนกลุ่มลูกค้ากลาง-บนนั้นก็อาจจะชะลอการซื้อไประยะหนึ่งอย่างไรก็ตาม ในส่วนบริษัทคงต้องรอประเมินความต้องการของลูกค้าก่อนตัดสินใจแผนธุรกิจปีหน้า เพราะช่วงหลังน้ำลดกำลังซื้อจะชะงักไปสักพักแน่นอน
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-20 พฤศจิกายน 2554 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลน้อยมากคือ มีบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ประมาณ 3,000 ยูนิต จำนวน 20 โครงการ และมีห้องชุดเปิดขายใหม่ประมาณ 6,000 ยูนิต หรือประมาณ17 โครงการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
นางพิกุลกล่าวว่า ทั้งนี้ จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารต้องมีการทบทวนราคาบ้านใหม่ ซึ่งเท่าที่ปรึกษากับบริษัทประเมินมองว่า ราคาบ้านในบริเวณน้ำท่วมจะลดลงประมาณ 10% และยังต้องมีการประเมินค่าเสื่อมเพิ่มเติมอีกด้วย รวมทั้งอาจจะต้องปรับแพคเกจประกันใหม่ด้วย
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ในปีหน้าตลาดคอนโดฯกำลังได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น โดยส่วนใหญ่ต้องการซื้อเป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ไว้ในยามฉุกเฉิน โดยพื้นที่ในกรุงเทพฯที่ได้รับความสนใจ มี 3 กลุ่มคือ กลุ่มรอบนอกกรุงเทพฯคือ คอนโดฯย่านบางนา สุวรรณภูมิ แบริ่งกลุ่มที่ 2 คือ พื้นที่รอบกลาง เช่น พระราม 9 ศรีนครินทร์ และกลุ่มที่ 3 พื้นที่ชั้นในคือพระราม 4 ลุมพินี อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่ได้รุกตลาดมาก แต่จะเน้นกระจายความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากตลาดคอนโดมีความเสี่ยงมากกว่าแนวราบ โดยจะเน้นคอนโดราคา1 ล้านบาทขึ้นไป เพราะราคาต่ำเสี่ยงสูง
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในปีหน้าธนาคารจะเน้นตลาดในกลุ่มคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งเป็นแผนที่ธนาคารวางไว้ก่อนจะเกิดน้ำท่วมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันธนาคารจะออกไปเน้นตลาดในกลุ่มต่างจังหวัด
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษาเรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่าลูกค้าตื่นตระหนกแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ล่าง ซึ่งทำงานในนิคมอุตสาหกรรมคงจะไม่คิดย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียม เชื่อว่ากลุ่มนี้ยังมีความต้องการบ้านแนวราบอยู่ ส่วนกลุ่มลูกค้ากลาง-บนนั้นก็อาจจะชะลอการซื้อไประยะหนึ่งอย่างไรก็ตาม ในส่วนบริษัทคงต้องรอประเมินความต้องการของลูกค้าก่อนตัดสินใจแผนธุรกิจปีหน้า เพราะช่วงหลังน้ำลดกำลังซื้อจะชะงักไปสักพักแน่นอน
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-20 พฤศจิกายน 2554 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลน้อยมากคือ มีบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ประมาณ 3,000 ยูนิต จำนวน 20 โครงการ และมีห้องชุดเปิดขายใหม่ประมาณ 6,000 ยูนิต หรือประมาณ17 โครงการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน