ตลาดคอนโดมิเนียมช่วงครึ่งปีแรก 2555 หากเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าผู้ประกอบการได้กลับมาพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย
อุปทานเสนอขายห้องชุดในช่วงครึ่งปีแรก 2555 เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และคาดว่าอุปสงค์ของตลาดห้องชุดจะเติบโตขึ้นอีก โดยปัจจัยต่างๆ อีกทั้งราคาเสนอขายก็จะขยับสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 3-5%
จากการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมช่วงครึ่งปีแรก 2555 โดยฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พบว่า มีจำนวนห้องชุดสร้างเสร็จ 13,643 ยูนิต จาก 41 โครงการ ส่งผลให้จำนวนห้องชุดสร้างเสร็จสะสมเพิ่มขึ้น 5% จากปี 2554 มาอยู่ที่ 295,537 ยูนิต และพบว่าอุปทานเสนอขายใหม่ช่วงครึ่งปีแรก 2555 มีจำนวน 35,986 ยูนิต จาก 80 โครงการ เพิ่มขึ้น 33.1% หากเปรียบเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการได้กลับมาพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ประกอบกับผู้ประกอบการบางส่วนลดการพัฒนาโครงการแนวราบ และลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น
อุปทานเสนอขายห้องชุดในช่วงครึ่งปีแรก 2555 เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และคาดว่าอุปสงค์ของตลาดห้องชุดจะเติบโตขึ้นอีก โดยปัจจัยต่างๆ อีกทั้งราคาเสนอขายก็จะขยับสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 3-5%
จากการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมช่วงครึ่งปีแรก 2555 โดยฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พบว่า มีจำนวนห้องชุดสร้างเสร็จ 13,643 ยูนิต จาก 41 โครงการ ส่งผลให้จำนวนห้องชุดสร้างเสร็จสะสมเพิ่มขึ้น 5% จากปี 2554 มาอยู่ที่ 295,537 ยูนิต และพบว่าอุปทานเสนอขายใหม่ช่วงครึ่งปีแรก 2555 มีจำนวน 35,986 ยูนิต จาก 80 โครงการ เพิ่มขึ้น 33.1% หากเปรียบเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการได้กลับมาพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ประกอบกับผู้ประกอบการบางส่วนลดการพัฒนาโครงการแนวราบ และลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น
อุปทานเสนอขายห้องชุดช่วงครึ่งปีแรก 2555 ใน 8 พื้นที่ (ยกเว้นพื้นที่รอบนอก เช่น พื้นที่นนทบุรี , มีนบุรี, รามคำแหง เป็นต้น) มีจำนวน 42,312 ยูนิต เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า และเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 26.4% หากเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะการเติบโตของอุปทานใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกนี้สนับสนุนให้อุปทานเสนอขายฟื้นตัวจากรอบที่แล้ว โดยพื้นที่ธนบุรีมีอุปทานเสนอขายเพิ่มขึ้นสูงสุดจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า 55.1% รองลงมาคือ พื้นที่สุขุมวิทรอบนอก เพิ่มขึ้น 40.3% และพื้นที่รัชดาภิเษก เพิ่มขึ้น 20.6%
ด้านยอดขายห้องชุดใน 8 พื้นที่ ช่วงครึ่งปีแรก 2555 อยู่ที่ 16,153 ยูนิต เพิ่มขึ้น 13.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นสัดส่วนยอดขายได้ 38.2% จากยูนิตเสนอขายใน 8 พื้นที่ เนื่องจากอุปทานส่วนใหญ่สามารถเสนอขายห้องชุดได้ตามแผนงานกระตุ้นให้ฝั่งอุปสงค์กระเตื้องขึ้นจากปีก่อน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูง เพิ่มขึ้นภายหลังเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว โดยพบว่าพื้นที่ธนบุรีมียอดขายได้เพิ่มขึ้นสูงสุด 260.8% รองลงมาคือพื้นที่สุขุมวิทรอบนอก เพิ่มขึ้น 28.3% และพื้นที่รัชดาภิเษก เพิ่มขึ้น 9.7%
สำหรับราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน 5 พื้นที่ธุรกิจหลักปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.31% จากปี 2554 หรือเพิ่มขึ้น 1,410 บาท มาอยู่ที่ 109,264 บาทต่อตารางเมตร โดยพื้นที่พญาไทมีราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงสุด 10% เป็นผลจากต้นทุนการดำเนินการที่สูงขึ้น ประกอบกับโครงการใหม่ปรับราคาขายสูงขึ้นกว่ามาตรฐานเดิมในตลาด รองลงมาคือ พื้นที่พหลโยธิน ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.8% และพื้นที่สุขุมวิท เพิ่มขึ้น 0.6%
คาดว่าภายในปี 2555 ตลาดห้องชุดจะมีอุปสงค์เติบโตขึ้นอีก โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของทางภาครัฐบาล เรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก และโครงการเงินกู้ดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 3 ปี ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ช่วยให้อุปสงค์ในตลาดคอนโดมิเนียมเกิดการขยายตัวได้ดีขึ้น และในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 จะเกิดอุปทานใหม่ในตลาดไม่น้อยกว่า 40 โครงการ จำนวน 20,000 ยูนิต แม้อาจทำให้อุปทานคงค้างเดิมต้องใช้เวลาดูดซับอย่างน้อย 10 เดือน แต่คาดว่าจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อตลาดมากนัก อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่ราคาเสนอขายจะขยับสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 3-5% เนื่องจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงานยังเติบโตสูง ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นตามไปด้วย
ที่มา: จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,769 26-29 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ด้านยอดขายห้องชุดใน 8 พื้นที่ ช่วงครึ่งปีแรก 2555 อยู่ที่ 16,153 ยูนิต เพิ่มขึ้น 13.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นสัดส่วนยอดขายได้ 38.2% จากยูนิตเสนอขายใน 8 พื้นที่ เนื่องจากอุปทานส่วนใหญ่สามารถเสนอขายห้องชุดได้ตามแผนงานกระตุ้นให้ฝั่งอุปสงค์กระเตื้องขึ้นจากปีก่อน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูง เพิ่มขึ้นภายหลังเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว โดยพบว่าพื้นที่ธนบุรีมียอดขายได้เพิ่มขึ้นสูงสุด 260.8% รองลงมาคือพื้นที่สุขุมวิทรอบนอก เพิ่มขึ้น 28.3% และพื้นที่รัชดาภิเษก เพิ่มขึ้น 9.7%
สำหรับราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน 5 พื้นที่ธุรกิจหลักปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.31% จากปี 2554 หรือเพิ่มขึ้น 1,410 บาท มาอยู่ที่ 109,264 บาทต่อตารางเมตร โดยพื้นที่พญาไทมีราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงสุด 10% เป็นผลจากต้นทุนการดำเนินการที่สูงขึ้น ประกอบกับโครงการใหม่ปรับราคาขายสูงขึ้นกว่ามาตรฐานเดิมในตลาด รองลงมาคือ พื้นที่พหลโยธิน ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.8% และพื้นที่สุขุมวิท เพิ่มขึ้น 0.6%
คาดว่าภายในปี 2555 ตลาดห้องชุดจะมีอุปสงค์เติบโตขึ้นอีก โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของทางภาครัฐบาล เรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก และโครงการเงินกู้ดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 3 ปี ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ช่วยให้อุปสงค์ในตลาดคอนโดมิเนียมเกิดการขยายตัวได้ดีขึ้น และในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 จะเกิดอุปทานใหม่ในตลาดไม่น้อยกว่า 40 โครงการ จำนวน 20,000 ยูนิต แม้อาจทำให้อุปทานคงค้างเดิมต้องใช้เวลาดูดซับอย่างน้อย 10 เดือน แต่คาดว่าจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อตลาดมากนัก อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่ราคาเสนอขายจะขยับสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 3-5% เนื่องจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงานยังเติบโตสูง ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นตามไปด้วย
ที่มา: จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,769 26-29 สิงหาคม พ.ศ. 2555