นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ ทั้งปี 2554 มี 375,500 ล้านบาท สูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ต่ำกว่ายอดปล่อยรวมในปี 2553 ที่มี 377,200 ล้านบาท สาเหตุที่ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ยังคงสูงในปี 2554 เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังคงมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะไตรมาส 3 ที่มีธนาคารพาณิชย์บางรายมีอัตราเติบโตของสินเชื่อสูงมาก
ทั้งนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างเท่ากับ 2,036,800 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 นับเป็นครั้งแรกที่ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยทะลุ 2 ล้านล้านบาท
สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทั้งปี 2554 ในกรุงเทพฯและปริมลฑล รวมกันทุกประเภท 81,500 หน่วย ลดลง 24% จากจำนวน 107,000 หน่วยในปี 2553 และเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2554 พบว่ามีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทุกประเภทรวมกัน 13,700 หน่วย ลดลง 45% จากไตรมาสก่อนที่มีประมาณ 24,600 หน่วย และลดลง 63% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2553 เนื่องจากเป็นช่วงที่เกิดอุทกภัยรุนแรง
ส่วนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2555 มีทั้งสิ้น 8,800 หน่วย คาดว่าตลอดทั้งปี 2555 ประเภทอาคารชุดจะมากกว่า 50,000-55,000 หน่วย และโครงการแนวราบไม่เกิน 40,000 หน่วย
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า มาตรการบ้านหลังแรกของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงน้ำท่วม ทำให้ไม่ได้ผลตอบรับเท่าที่ควร อีกทั้งมาตรการที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อน และนโยบายจะหมดลงในเดือน ธ.ค.2555 ดังนั้น ประชาชนควรรีบใช้สิทธิ์ในการซื้อบ้านหลังแรก เพราะตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา ราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเกือบทั้งหมดได้มีการปรับตัวสูงขึ้น และในเดือน เม.ย.นี้ ที่มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท คาดว่าอาคารชุดและบ้านแนวราบจะปรับราคาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 3
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทั้งปี 2554 ในกรุงเทพฯและปริมลฑล รวมกันทุกประเภท 81,500 หน่วย ลดลง 24% จากจำนวน 107,000 หน่วยในปี 2553 และเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2554 พบว่ามีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทุกประเภทรวมกัน 13,700 หน่วย ลดลง 45% จากไตรมาสก่อนที่มีประมาณ 24,600 หน่วย และลดลง 63% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2553 เนื่องจากเป็นช่วงที่เกิดอุทกภัยรุนแรง
ส่วนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2555 มีทั้งสิ้น 8,800 หน่วย คาดว่าตลอดทั้งปี 2555 ประเภทอาคารชุดจะมากกว่า 50,000-55,000 หน่วย และโครงการแนวราบไม่เกิน 40,000 หน่วย
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า มาตรการบ้านหลังแรกของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงน้ำท่วม ทำให้ไม่ได้ผลตอบรับเท่าที่ควร อีกทั้งมาตรการที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อน และนโยบายจะหมดลงในเดือน ธ.ค.2555 ดังนั้น ประชาชนควรรีบใช้สิทธิ์ในการซื้อบ้านหลังแรก เพราะตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา ราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเกือบทั้งหมดได้มีการปรับตัวสูงขึ้น และในเดือน เม.ย.นี้ ที่มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท คาดว่าอาคารชุดและบ้านแนวราบจะปรับราคาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 3
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์