จากผลสำรวจความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคตของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่ได้ทำการวิเคราหะข้อมูลการลงทะเบียนผู้เข้าชมงาน "มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 30" ที่ผ่านมาในเชิงลึก จากการสุ่มตัวอย่างจำนวน 10,220 คน พบว่า รายได้ของครอบครัวต่อเดือน ร้อยละ 24 มีรายได้70,001-100,000 บาท รองลงมาคือ ร้อยละ 23 มีรายได้ 30,001-50,000 บาท
ทั้งนี้ บ้านที่ต้องการซื้อในอนาคตนั้น ร้อยละ 89 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ มีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้นที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง และเมื่อจำแนกประเภทบ้านที่ต้องการซื้อพบว่า ร้อยละ 46 ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว รองลงมาคือ ร้อยละ 33 ต้องการคอนโดมิเนียม และร้อยละ 15 ต้องการทาวน์เฮาส์ซึ่งงบประมาณในการซื้อบ้าน ร้อยละ 42ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท รองลงมาคือ ร้อยละ 24 ต้องการซื้อในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท และร้อยละ 14 ต้องการซื้อในระดับราคา 3.1-4 ล้านบาท
ส่วนแหล่งเงินทุนที่นำมาซื้อบ้าน ร้อยละ 82 กู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่ร้อยละ 18 ใช้เงินออกส่วนตัว โดยผู้ที่กู้เงินจากสถาบันการเงิน ส่วนใหญ่ร้อยละ 46 มีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน 10,001-20,000 บาทรองลงมาคือ ร้อยละ 25 ผ่อนชำระไม่เกิน 10,000 บาท และร้อยละ 13 ผ่อนชำระ 20,001-30,000 บาท และยังพบว่า ร้อยละ 23 คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยภายใน 1-2 ปี
โดยทำเลที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดคือ ทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเขตที่มีผู้ต้องการซื้อใน 5 อันดับแรก คือ เขตบางนา จตุจักร ลาดพร้าว ห้วยขวาง และบางกะปิ โดยร้อยละ 54 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า รองลงมาคือ ร้อยละ 27 ต้องการซื้อใกล้ที่ทำงาน และร้อยละ 11 ต้องการใกล้ห้างสรรพสินค้า สาเหตุที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ พบว่า ร้อยละ 40 ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รองลงมาคือ ร้อยละ 17 ต้องการแยกครอบครัว/แต่งงาน และร้อยละ 14 ต้องการความสะดวกในการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม บ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันร้อยละ 71 อยู่ในกรุงเทพฯ รองลงมาได้แก่ นนทบุรี ร้อยละ 7สมุทรปราการ ร้อยละ 5 และปทุมธานี ร้อยละ 4 โดยลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยว ถึงร้อยละ 40 รองลงมา คือ อพาร์ตเมนต์/หอพัก/แฟลต ร้อยละ 17 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 16 คอนโดมิเนียม ร้อยละ 15 อาคารพาณิชย์ ร้อยละ10 และบ้านแฝด ร้อยละ 2 ด้านสถานการณ์อยู่อาศัย พบว่า ร้อยละ 33 มีสถานะเป็นเจ้าของไม่มีภาระผ่อน รองลงมาคือเป็นผู้อยู่อาศัย
ร้อยละ 29.2 เช่า ร้อยละ 20.0 เป็นเจ้าของมีภาระผ่อน ร้อยละ 15 และอยู่บ้านสวัสดิการ ร้อยละ 3 ส่วนจำนวนผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 24 มีจำนวน 4 คน รองลงมาคือ ร้อยละ 24 มีจำนวน 2 คน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 41 จะอยู่อาศัยมาแล้วมากกว่า 10 ปี ขึ้นไป
"ขณะที่หากโฟกัสไปที่จังหวัดท่องเที่ยว ตากอากาศ อย่างภูเก็ต "สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าพบว่ามีที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 31,650 ยูนิต เป็นบ้านจัดสรร 13,900 ยูนิต คอนโดฯ 16,900 ยูนิต และบ้านพักตากอากาศ 850 ยูนิต" สัมมา กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ
ส่วนแหล่งเงินทุนที่นำมาซื้อบ้าน ร้อยละ 82 กู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่ร้อยละ 18 ใช้เงินออกส่วนตัว โดยผู้ที่กู้เงินจากสถาบันการเงิน ส่วนใหญ่ร้อยละ 46 มีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน 10,001-20,000 บาทรองลงมาคือ ร้อยละ 25 ผ่อนชำระไม่เกิน 10,000 บาท และร้อยละ 13 ผ่อนชำระ 20,001-30,000 บาท และยังพบว่า ร้อยละ 23 คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยภายใน 1-2 ปี
โดยทำเลที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดคือ ทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเขตที่มีผู้ต้องการซื้อใน 5 อันดับแรก คือ เขตบางนา จตุจักร ลาดพร้าว ห้วยขวาง และบางกะปิ โดยร้อยละ 54 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า รองลงมาคือ ร้อยละ 27 ต้องการซื้อใกล้ที่ทำงาน และร้อยละ 11 ต้องการใกล้ห้างสรรพสินค้า สาเหตุที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ พบว่า ร้อยละ 40 ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รองลงมาคือ ร้อยละ 17 ต้องการแยกครอบครัว/แต่งงาน และร้อยละ 14 ต้องการความสะดวกในการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม บ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันร้อยละ 71 อยู่ในกรุงเทพฯ รองลงมาได้แก่ นนทบุรี ร้อยละ 7สมุทรปราการ ร้อยละ 5 และปทุมธานี ร้อยละ 4 โดยลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยว ถึงร้อยละ 40 รองลงมา คือ อพาร์ตเมนต์/หอพัก/แฟลต ร้อยละ 17 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 16 คอนโดมิเนียม ร้อยละ 15 อาคารพาณิชย์ ร้อยละ10 และบ้านแฝด ร้อยละ 2 ด้านสถานการณ์อยู่อาศัย พบว่า ร้อยละ 33 มีสถานะเป็นเจ้าของไม่มีภาระผ่อน รองลงมาคือเป็นผู้อยู่อาศัย
ร้อยละ 29.2 เช่า ร้อยละ 20.0 เป็นเจ้าของมีภาระผ่อน ร้อยละ 15 และอยู่บ้านสวัสดิการ ร้อยละ 3 ส่วนจำนวนผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 24 มีจำนวน 4 คน รองลงมาคือ ร้อยละ 24 มีจำนวน 2 คน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 41 จะอยู่อาศัยมาแล้วมากกว่า 10 ปี ขึ้นไป
"ขณะที่หากโฟกัสไปที่จังหวัดท่องเที่ยว ตากอากาศ อย่างภูเก็ต "สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าพบว่ามีที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 31,650 ยูนิต เป็นบ้านจัดสรร 13,900 ยูนิต คอนโดฯ 16,900 ยูนิต และบ้านพักตากอากาศ 850 ยูนิต" สัมมา กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ