รอบปี2555 นี้การขยายตลาดพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักสำคัญ มีความคึกคักมากเป็นพิเศษผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ต่างมุ่งออกสู่ต่างจังหวัดจับจองพื้นที่ทำเลทองเพื่อขึ้นโครงการอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบ เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นพื้นที่อำเภอชะอำและหัวหิน ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯมีบรรยากาศและความพร้อมด้านต่างๆ ที่สามารถรองรับเป็นบ้านหลังที่ 2 ได้ดีที่สุดหรือแม้แต่การพัฒนาโครงการเพื่อรองรับกับกลุ่มที่ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังแรกก็ตาม
สำหรับการพัฒนาโครงการในพื้นที่ดังกล่าว ในส่วนของคอนโดมิเนียมระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมามีปริมาณเพิ่มขึ้นจำนวนมากรายงานข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและประเมินมูลค่าทรัพย์สิน บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์(ประเทศไทย)ฯ ระบุว่าตลาดคอนโดมิเนียม ในหัวหิน-ชะอำปี 2554 มีจำนวนห้องของคอนโดฯใหม่เปิดตัวมากถึง 6,889 ยูนิตจาก 5 โครงการ ทั้งนี้จำนวนที่เพิ่มขึ้นมากเกิดจากการเปิดตัว เฉพาะในปีที่ผ่านมามีจำนวน 1,324 ยูนิต ส่วนจำนวนหน่วยขายสะสมเมื่อสิ้นปีมีจำนวน6,021ยูนิตซึ่งในอดีตพบว่าปริมาณการซื้อคอนโดฯ ในหัวหินอยู่ที่ประมาณ 800 -1,000 ยูนิตต่อปี
การพัฒนาโครงการคอนโดฯออกมาขายในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะหันมาจับตลาดระดับราคาขายต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อยูนิตเพิ่มมากขึ้น อาทิ โครงการเดอะเอนเนอร์จี้ ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายถึง6,000 ยูนิตจะเห็นได้ว่าตลาดคอนโดฯในหัวหินมีการขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ไปยังกลุ่มผู้ซื้อระดับกลางล่าง ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มผู้ซื้อเดิมที่ส่วนใหญ่มีฐานะทางสังคม มีระดับรายได้ปานกลางถึงสูงต้องการบ้านพักตากอากาศที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
อย่างไรก็ตามจำนวนห้องชุดที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นไปที่คอนโดฯขนาดเล็ก 1 ห้องนอน มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างจากตลาดคอนโดฯที่เปิดขายในอดีตที่ส่วนใหญ่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไปทางสูง จะเห็นได้ว่าจำนวนหน่วยเหลือขายของคอนโดมิเนียมระดับกลางล่างหรือราคาต่อหน่วยต่ำกว่า2ล้านบาทมีจำนวนหน่วยคงเหลือสูงถึง5,695หน่วยในขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายของคอนโดฯระดับกลาง สูงมีจำนวนหน่วยเหลือขายเพียง1,136 หน่วยซึ่งหากลองพิจารณาอัตราการซื้อที่ปีละ800-1,000 ต่อปี ก็ถือว่าจำนวนใช้เวลาเพียง 1 ปี
พิจารณาด้านราคาขายจะพบว่ายังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันคอนโดฯ ระดับราคาสูงกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดฯ ที่เห็นวิวทะเลในบริเวณชะอำ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 62,000 ถึง1.25 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่90,593 บาทต่อตารางเมตร โดยเพิ่มขึ้นจาก87,536 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2553 ส่วนราคาขายคอนโดฯ ระดับกลาง ล่าง หรือคอนโดฯที่ระดับราคาขายต่อหน่วยต่ำกว่า 2 ล้านบาท และไม่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายอยู่ที่ 60,000-64,000 บาทต่อตารางเมตร
อย่างไรก็ตามราคาต่อยูนิตลดลงเนื่องจากขนาดของห้องชุดมีเนื้อที่ลดลงด้วยโดยห้องชุดขนาด1ห้องนอนมีขนาดเพียง 32-35 ตารางเมตร ในขณะที่คอนโดฯ ระดับกลางบนมีขนาด 42-50 ตารางเมตรส่วน2ห้องนอนคอนโดฯระดับกลาง ล่าง มีขนาด 50-60 ตารางเมตร ในขณะที่คอนโดฯ ขนาด 2 ห้องนอนระดับกลาง สูง มีเนื้อที่ 80 ตารางเมตร ขึ้นไป
ในปี 2555 นี้ ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดคอนโดฯในหัวหิน-ชะอำจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีการเปิดโครงการใหม่อีกไม่น้อยกว่า 8 โครงการ ประกอบด้วยหน่วยขายจากโครงการระดับกลางถึงสูงเพียง 2,300 หน่วย อีกราว 6,000 หน่วย เป็นหน่วยขายจากโครงการที่ราคาขายต่ำกว่า2 ล้านบาทลักษณะของคอนโดฯ ที่มีระดับราคากลางถึงสูง กล่าวคือราคามากกว่า2 ล้านบาทต่อยูนิต เป็นคอนโดฯ ที่เน้นความคุ้มค่าของการลงทุนซื้อของลูกค้าเช่นโครงการเดอะ เลเจนด์ โดยโบ๊ทเฮาส์หัวหินที่เน้นคอนโดฯ ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาขายประมาณ 5.5 - 6.5 ล้านบาท ซึ่งนับว่ามีความเหมาะสมกับตลาดในปัจจุบันอย่างมากนอกจากนี้จะเห็นว่า กลุ่มแสนสิริ,กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์, กลุ่มควอลิตี้เฮ้าส์และบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด(มหาชน) จะยังคงเปิดขายโครงการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการเข้ามาในตลาดของ บริษัท เอสซีแอสเสทจำกัด(มหาชน) ก็จะยิ่งเพิ่มความคึกคักของตลาดคอนโดฯในหัวหิน-ชะอำให้มากขึ้นด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 5 - 7 เม.ย. 2555
การพัฒนาโครงการคอนโดฯออกมาขายในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะหันมาจับตลาดระดับราคาขายต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อยูนิตเพิ่มมากขึ้น อาทิ โครงการเดอะเอนเนอร์จี้ ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายถึง6,000 ยูนิตจะเห็นได้ว่าตลาดคอนโดฯในหัวหินมีการขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ไปยังกลุ่มผู้ซื้อระดับกลางล่าง ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มผู้ซื้อเดิมที่ส่วนใหญ่มีฐานะทางสังคม มีระดับรายได้ปานกลางถึงสูงต้องการบ้านพักตากอากาศที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
อย่างไรก็ตามจำนวนห้องชุดที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นไปที่คอนโดฯขนาดเล็ก 1 ห้องนอน มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างจากตลาดคอนโดฯที่เปิดขายในอดีตที่ส่วนใหญ่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไปทางสูง จะเห็นได้ว่าจำนวนหน่วยเหลือขายของคอนโดมิเนียมระดับกลางล่างหรือราคาต่อหน่วยต่ำกว่า2ล้านบาทมีจำนวนหน่วยคงเหลือสูงถึง5,695หน่วยในขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายของคอนโดฯระดับกลาง สูงมีจำนวนหน่วยเหลือขายเพียง1,136 หน่วยซึ่งหากลองพิจารณาอัตราการซื้อที่ปีละ800-1,000 ต่อปี ก็ถือว่าจำนวนใช้เวลาเพียง 1 ปี
พิจารณาด้านราคาขายจะพบว่ายังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันคอนโดฯ ระดับราคาสูงกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดฯ ที่เห็นวิวทะเลในบริเวณชะอำ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 62,000 ถึง1.25 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่90,593 บาทต่อตารางเมตร โดยเพิ่มขึ้นจาก87,536 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2553 ส่วนราคาขายคอนโดฯ ระดับกลาง ล่าง หรือคอนโดฯที่ระดับราคาขายต่อหน่วยต่ำกว่า 2 ล้านบาท และไม่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายอยู่ที่ 60,000-64,000 บาทต่อตารางเมตร
อย่างไรก็ตามราคาต่อยูนิตลดลงเนื่องจากขนาดของห้องชุดมีเนื้อที่ลดลงด้วยโดยห้องชุดขนาด1ห้องนอนมีขนาดเพียง 32-35 ตารางเมตร ในขณะที่คอนโดฯ ระดับกลางบนมีขนาด 42-50 ตารางเมตรส่วน2ห้องนอนคอนโดฯระดับกลาง ล่าง มีขนาด 50-60 ตารางเมตร ในขณะที่คอนโดฯ ขนาด 2 ห้องนอนระดับกลาง สูง มีเนื้อที่ 80 ตารางเมตร ขึ้นไป
ในปี 2555 นี้ ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดคอนโดฯในหัวหิน-ชะอำจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีการเปิดโครงการใหม่อีกไม่น้อยกว่า 8 โครงการ ประกอบด้วยหน่วยขายจากโครงการระดับกลางถึงสูงเพียง 2,300 หน่วย อีกราว 6,000 หน่วย เป็นหน่วยขายจากโครงการที่ราคาขายต่ำกว่า2 ล้านบาทลักษณะของคอนโดฯ ที่มีระดับราคากลางถึงสูง กล่าวคือราคามากกว่า2 ล้านบาทต่อยูนิต เป็นคอนโดฯ ที่เน้นความคุ้มค่าของการลงทุนซื้อของลูกค้าเช่นโครงการเดอะ เลเจนด์ โดยโบ๊ทเฮาส์หัวหินที่เน้นคอนโดฯ ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาขายประมาณ 5.5 - 6.5 ล้านบาท ซึ่งนับว่ามีความเหมาะสมกับตลาดในปัจจุบันอย่างมากนอกจากนี้จะเห็นว่า กลุ่มแสนสิริ,กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์, กลุ่มควอลิตี้เฮ้าส์และบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด(มหาชน) จะยังคงเปิดขายโครงการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการเข้ามาในตลาดของ บริษัท เอสซีแอสเสทจำกัด(มหาชน) ก็จะยิ่งเพิ่มความคึกคักของตลาดคอนโดฯในหัวหิน-ชะอำให้มากขึ้นด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 5 - 7 เม.ย. 2555