การชะลอตัวของภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมา ยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ มากนัก สะท้อนได้จากการลงทุนเปิดโครงการใหม่ ทั้งในฟากที่อยู่อาศัยและพื้นที่อาคารสำนักงาน ที่ยังเห็นตัวเลขการเติบโตใน ปี 2556
สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในพื้นที่กรุงเทพฯในปี2557 ว่ามีอัตราการเติบโตดี พบว่ามีอาคารสำนักงานกำหนดสร้างเสร็จในสิ้นปีนี้ จำนวน 1.46 แสนตร.ม. ซึ่งมากที่สุดในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา จากพื้นที่อาคารสำนักงานทั้งหมดในกรุงเทพฯ ณ สิ้นปี 2556 อยู่ที่ 8.06 ล้านตร.ม. โดยในช่วงปี 2544-2556 มีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จเฉลี่ยต่อปีประมาณ 8.27 หมื่นตร.ม.
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อัตราเช่าพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้น เนื่องจาก การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในช่วงปลายปี 2558 จะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนตอนบน หรือ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ส่งผลให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายฐานธุรกิจมายังตลาดอาเซียน เข้ามาเช่าสำนักงานในเมืองไทยมากขึ้น เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีพบว่าตลาดอาคารสำนักงานในพื้นที่รอยต่อทางทิศเหนือ ตามแนวถนนรัชดาภิเษกและพหลโยธินขยายตัวสูงสุด
โดยมีอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีพื้นที่รวมประมาณ 1.98 แสนตร.ม. คาดแล้วเสร็จในช่วงปี 2557-2558 สูงกว่าพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ ซึ่งไม่มีอาคารสำนักงานที่มีกำหนดสร้างเสร็จใน ปี 2557 ขณะที่ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง จากราคาที่ดินในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจปรับตัวสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและที่ดินมีจำกัด เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาอาคารสำนักงาน ความต้องการพื้นที่สำนักงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และซัพพลายใหม่ที่มีอยู่จำกัด ส่งผลให้อัตรา การเช่าและค่าเช่าในพื้นที่ศูนย์กลางเขต ธุรกิจ พื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจชั้นนอก และพื้นที่รอยต่อทางทิศเหนือเพิ่มขึ้น อัตราการเช่าเฉลี่ยในทั้ง 3 พื้นที่หลักของกรุงเทพฯ อยู่ที่ประมาณ 89% ในขณะที่อัตราการเช่าเฉลี่ยของทั้งกรุงเทพฯอยู่ที่ 87.5%
"การขยายตัวดังกล่าว เกิดจากบริษัทต่างชาติและคนไทยต้องการพื้นที่สำนักงานในอาคารสำนักงานเกาะแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน ขณะที่พื้นที่ว่างมีอยู่ไม่มากนัก อัตราการเช่าเฉลี่ยในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ ไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 5% และประมาณ 8% สำหรับอาคารสำนักงานเกรดเอในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ"
คาดว่าแนวโน้มค่าเช่า และอัตราการเช่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่าต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เสถียรภาพทางการเมืองก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และนักธุรกิจได้เช่นกัน
ทางด้าน สุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ โจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่าในปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกรุงเทพฯ มีผลประกอบการที่ดี แม้จะมีปัจจัยลบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการในตลาดอยู่ในระดับแข็งแกร่ง สะท้อนจากราคาขายและค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และโครงการใหม่ๆ ที่เปิดตัวได้รับการตอบรับที่ดี
ธุรกิจคอนโดมิเนียม โครงการที่เปิดตัวใหม่ส่วนใหญ่ในปี 2556 ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมและที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนราคาขายยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นที่ไม่หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับปี 2555 เนื่องจากมีการแข่งขันสูง จากการที่ยังมียูนิตเสนอขายในตลาดจำนวนมาก ด้านอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า มีผลประกอบการการที่แข็งแกร่งในปีที่ ผ่านมา เนื่องจากอุปทานหรือซัพพลาย เกิดใหม่ในตลาดมีจำกัด ขณะที่ความต้องการเช่าพื้นที่มีอยู่สูง ส่งผลให้มีพื้นที่ว่างเหลือเช่าลดต่ำลงและค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้น โดยในส่วนของตลาดอาคารสำนักงาน มีพื้นที่ว่างเหลือเช่าเพียงประมาณ 10% ในขณะที่ค่าเช่ามีการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันตลอด 9 ไตรมาสที่ผ่านมา ประสบการณ์จากเหตุการณ์ความ ไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วง หลายปีที่ผ่านมา ผลกระทบที่เห็นได้ทันทีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อัตราเช่าพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้น เนื่องจาก การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในช่วงปลายปี 2558 จะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนตอนบน หรือ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ส่งผลให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายฐานธุรกิจมายังตลาดอาเซียน เข้ามาเช่าสำนักงานในเมืองไทยมากขึ้น เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีพบว่าตลาดอาคารสำนักงานในพื้นที่รอยต่อทางทิศเหนือ ตามแนวถนนรัชดาภิเษกและพหลโยธินขยายตัวสูงสุด
โดยมีอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีพื้นที่รวมประมาณ 1.98 แสนตร.ม. คาดแล้วเสร็จในช่วงปี 2557-2558 สูงกว่าพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ ซึ่งไม่มีอาคารสำนักงานที่มีกำหนดสร้างเสร็จใน ปี 2557 ขณะที่ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง จากราคาที่ดินในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจปรับตัวสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและที่ดินมีจำกัด เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาอาคารสำนักงาน ความต้องการพื้นที่สำนักงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และซัพพลายใหม่ที่มีอยู่จำกัด ส่งผลให้อัตรา การเช่าและค่าเช่าในพื้นที่ศูนย์กลางเขต ธุรกิจ พื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจชั้นนอก และพื้นที่รอยต่อทางทิศเหนือเพิ่มขึ้น อัตราการเช่าเฉลี่ยในทั้ง 3 พื้นที่หลักของกรุงเทพฯ อยู่ที่ประมาณ 89% ในขณะที่อัตราการเช่าเฉลี่ยของทั้งกรุงเทพฯอยู่ที่ 87.5%
"การขยายตัวดังกล่าว เกิดจากบริษัทต่างชาติและคนไทยต้องการพื้นที่สำนักงานในอาคารสำนักงานเกาะแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน ขณะที่พื้นที่ว่างมีอยู่ไม่มากนัก อัตราการเช่าเฉลี่ยในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ ไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 5% และประมาณ 8% สำหรับอาคารสำนักงานเกรดเอในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ"
คาดว่าแนวโน้มค่าเช่า และอัตราการเช่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่าต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เสถียรภาพทางการเมืองก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และนักธุรกิจได้เช่นกัน
ทางด้าน สุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ โจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่าในปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกรุงเทพฯ มีผลประกอบการที่ดี แม้จะมีปัจจัยลบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการในตลาดอยู่ในระดับแข็งแกร่ง สะท้อนจากราคาขายและค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และโครงการใหม่ๆ ที่เปิดตัวได้รับการตอบรับที่ดี
ธุรกิจคอนโดมิเนียม โครงการที่เปิดตัวใหม่ส่วนใหญ่ในปี 2556 ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมและที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนราคาขายยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นที่ไม่หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับปี 2555 เนื่องจากมีการแข่งขันสูง จากการที่ยังมียูนิตเสนอขายในตลาดจำนวนมาก ด้านอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า มีผลประกอบการการที่แข็งแกร่งในปีที่ ผ่านมา เนื่องจากอุปทานหรือซัพพลาย เกิดใหม่ในตลาดมีจำกัด ขณะที่ความต้องการเช่าพื้นที่มีอยู่สูง ส่งผลให้มีพื้นที่ว่างเหลือเช่าลดต่ำลงและค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้น โดยในส่วนของตลาดอาคารสำนักงาน มีพื้นที่ว่างเหลือเช่าเพียงประมาณ 10% ในขณะที่ค่าเช่ามีการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันตลอด 9 ไตรมาสที่ผ่านมา ประสบการณ์จากเหตุการณ์ความ ไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วง หลายปีที่ผ่านมา ผลกระทบที่เห็นได้ทันทีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ