บิ๊กพฤกษาฯ เตือนผังเมือง ค่าแรงแพง แรงงานขาด รับเหมางานล้น ที่ดินแพง 5 ปัจจัยเสี่ยงเปลี่ยนทิศตลาดอสังหาริมทรัพย์ แนะปรับตัวเพื่อเพิ่มโอกาสรอด ชี้การก่อสร้างตัวชี้วัดแพ้-ชนะ เผยผู้บริโภคคลายความกังวลปัญหาน้ำท่วม หนุนสถานการณ์อสังหาฯ 8 เดือนหลังฟื้นตัว คาดทั้งปีราคาบ้านปรับขึ้น 10%
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัย5 ประการ ประการแรก คือ ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) แม้ผังเมืองจะมีแนวโน้มกลับไปยึดเกณฑ์ความกว้างถนนในการก่อสร้างอาคารตามผังเมือง กทม.พ.ศ.2549 แล้ว แต่ผู้ประกอบการยังกังวลไม่กล้าพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯจนกว่าจะมีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ2. ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท 3. แรงงานขาดแคลน 4. ผู้รับเหมาก่อสร้างมีงานล้นมือและ 5. ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัย5 ประการ ประการแรก คือ ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) แม้ผังเมืองจะมีแนวโน้มกลับไปยึดเกณฑ์ความกว้างถนนในการก่อสร้างอาคารตามผังเมือง กทม.พ.ศ.2549 แล้ว แต่ผู้ประกอบการยังกังวลไม่กล้าพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯจนกว่าจะมีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ2. ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท 3. แรงงานขาดแคลน 4. ผู้รับเหมาก่อสร้างมีงานล้นมือและ 5. ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยข้างต้นจะส่งผลกระทบให้ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารจัดการ เพื่อให้อยู่รอดในธุรกิจนี้ได้ เช่น หันมาทำการก่อสร้างเองทำโรงงานพรีแคสต์เองเพื่อเพิ่มกำลังการก่อสร้างรองรับธุรกิจ
"ตัวชี้วัด แพ้ ชนะ ของอสังหาฯในปีนี้จะไม่ใช่เรื่องของยอดขายอีกต่อไปแต่จะเป็นเรื่องของงานก่อสร้างว่าจะสามารถสร้างเสร็จทันกำหนดหรือไม่ ฝ่ายขายจะต้องหันมาถามฝ่ายก่อสร้างว่าสร้างทันหรือไม่ บริษัทที่โหมยอดขายมากๆ อาจประสบปัญหาการก่อสร้างในภายหลังได้" นายประเสริฐกล่าว
นายอารีศักดิ์ เสถียรภาพอยุทธ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหลังน้ำลดในโซนจังหวัดนนทบุรี พบว่า ผู้เข้าชมโครงการในจังหวัดนนทบุรีช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.2555 ลดลง 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เข้าชมโครงการ พบว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วม 70%, ตามด้วยรอดูสถานการณ์ 15%,ยังมีภาระซ่อมบ้าน 12%, กังวลภาระผ่อน 2%และอื่นๆอีก 1%
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์กล่าวว่า สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากผู้บริโภคคลายความกังวลจากปัญหาน้ำท่วม โดยคาดว่าปีนี้จะแล้งมากกว่าน้ำท่วม ทำให้เชื่อว่าในช่วง8 เดือนที่เหลือของปีนี้ ทิศทางตลาดอสังหาฯจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ หากแยกตามประเภทที่อยู่อาศัยจะพบว่า โครงการประเภทคอนโดมิเนียมจะเปิดตัวลดน้อยลง หลังจากที่โหมเปิดตัวกันมากถึง 50โครงการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 8 เดือนที่เหลือ คาดว่าจะมีคอนโดฯเปิดตัวใหม่ประมาณ 70-80 โครงการ ซึ่งคอนโดฯ เปิดใหม่ต้องเกาะแนวรถไฟฟ้า
ส่วนตลาดแนวราบในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมารวมทั้งโครงการระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐที่มีการสร้างและขยายตัวออกนอกเมืองมากขึ้น เช่นโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่จะเกิดใหม่ รวมถึงถนนตัดใหม่ในเส้นเกษตร-นวมินทร์ เป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรทำให้ผู้ประกอบการมีที่เล่นในตลาดใหม่ๆ
นายสัมมากล่าวต่อว่า การปรับขึ้นราคาบ้าน คอนโดฯ และธุรกิจรับสร้างบ้านเริ่มเห็นบ้างแล้ว รวมทั้งธุรกิจรับสร้างบ้านที่มีการขยับ ราคาขึ้น 3-5% คาดว่าทั้งปีน่าจะมีการปรับราคาขึ้นไม่เกิน 10% ซึ่งเป็นการปรับราคาขึ้น ทุกระดับของราคาบ้าน ขณะที่ปัญหาแรงงาน เริ่มขาดแคลน เนื่องจากประเทศพม่ามีการเปิดประเทศทำให้แรงงานเหล่านั้นกลับประเทศ ตัวเองมากขึ้น ซึ่งในอนาคตผู้ประกอบการต้องหาหนทางชดเชยการขาดแคลนแรงงาน โดยหันพึ่งระบบก่อสร้างสำเร็จรูปกันมากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน
"ตัวชี้วัด แพ้ ชนะ ของอสังหาฯในปีนี้จะไม่ใช่เรื่องของยอดขายอีกต่อไปแต่จะเป็นเรื่องของงานก่อสร้างว่าจะสามารถสร้างเสร็จทันกำหนดหรือไม่ ฝ่ายขายจะต้องหันมาถามฝ่ายก่อสร้างว่าสร้างทันหรือไม่ บริษัทที่โหมยอดขายมากๆ อาจประสบปัญหาการก่อสร้างในภายหลังได้" นายประเสริฐกล่าว
นายอารีศักดิ์ เสถียรภาพอยุทธ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหลังน้ำลดในโซนจังหวัดนนทบุรี พบว่า ผู้เข้าชมโครงการในจังหวัดนนทบุรีช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.2555 ลดลง 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เข้าชมโครงการ พบว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วม 70%, ตามด้วยรอดูสถานการณ์ 15%,ยังมีภาระซ่อมบ้าน 12%, กังวลภาระผ่อน 2%และอื่นๆอีก 1%
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์กล่าวว่า สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากผู้บริโภคคลายความกังวลจากปัญหาน้ำท่วม โดยคาดว่าปีนี้จะแล้งมากกว่าน้ำท่วม ทำให้เชื่อว่าในช่วง8 เดือนที่เหลือของปีนี้ ทิศทางตลาดอสังหาฯจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ หากแยกตามประเภทที่อยู่อาศัยจะพบว่า โครงการประเภทคอนโดมิเนียมจะเปิดตัวลดน้อยลง หลังจากที่โหมเปิดตัวกันมากถึง 50โครงการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 8 เดือนที่เหลือ คาดว่าจะมีคอนโดฯเปิดตัวใหม่ประมาณ 70-80 โครงการ ซึ่งคอนโดฯ เปิดใหม่ต้องเกาะแนวรถไฟฟ้า
ส่วนตลาดแนวราบในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมารวมทั้งโครงการระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐที่มีการสร้างและขยายตัวออกนอกเมืองมากขึ้น เช่นโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่จะเกิดใหม่ รวมถึงถนนตัดใหม่ในเส้นเกษตร-นวมินทร์ เป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรทำให้ผู้ประกอบการมีที่เล่นในตลาดใหม่ๆ
นายสัมมากล่าวต่อว่า การปรับขึ้นราคาบ้าน คอนโดฯ และธุรกิจรับสร้างบ้านเริ่มเห็นบ้างแล้ว รวมทั้งธุรกิจรับสร้างบ้านที่มีการขยับ ราคาขึ้น 3-5% คาดว่าทั้งปีน่าจะมีการปรับราคาขึ้นไม่เกิน 10% ซึ่งเป็นการปรับราคาขึ้น ทุกระดับของราคาบ้าน ขณะที่ปัญหาแรงงาน เริ่มขาดแคลน เนื่องจากประเทศพม่ามีการเปิดประเทศทำให้แรงงานเหล่านั้นกลับประเทศ ตัวเองมากขึ้น ซึ่งในอนาคตผู้ประกอบการต้องหาหนทางชดเชยการขาดแคลนแรงงาน โดยหันพึ่งระบบก่อสร้างสำเร็จรูปกันมากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน