แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง "รัตนาธิเบศร์ติวานนท์" ฮอต บิ๊กแบรนด์ผุดคอนโดฯราคาต่ำชนสนั่น รับดีมานด์พุ่งแซงหน้าบ้านเดี่ยว- ทาวน์เฮาส์ "แอล.พี.เอ็น." จ่อเปิดตัวลุมพินีพาร์ค ติดสถานีรถไฟฟ้า "แสนสิริ" ปักธงดีคอนโดกวาดยอดขายแล้ว 60% "ศุภาลัย" เตรียมปักธง คอนโดฯใหม่ทำเลติวานนท์
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจการพัฒนาโครงการคอนโดฯตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบว่าโซน "รัตนาธิเบศร์" และ "ติวานนท์" มีโครงการของผู้ประกอบการบิ๊กแบรนด์รายใหญ่อย่าง บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลอปเมนท์ บมจ.ศุภาลัย บมจ.แสนสิริ ผุดประชันกันดักกำลังซื้อรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2558
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจการพัฒนาโครงการคอนโดฯตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบว่าโซน "รัตนาธิเบศร์" และ "ติวานนท์" มีโครงการของผู้ประกอบการบิ๊กแบรนด์รายใหญ่อย่าง บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลอปเมนท์ บมจ.ศุภาลัย บมจ.แสนสิริ ผุดประชันกันดักกำลังซื้อรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2558
โพลชี้ยุคนี้คอนโดฯแรงสุด
ความคึกคักการพัฒนาคอนโดฯ เป็นไปตามการขยายตัวของเมืองตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เชื่อมการเดินทางระหว่างใจกลางเมืองและชานเมือง และความต้องการซื้อคอนโดฯเป็นที่อยู่อาศัยหลังแรกที่ปัจจุบัน แซงหน้าบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จากผลวิจัยร่วมกันของ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และREIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ระบุว่าหลังน้ำท่วม "คอนโดฯ" มาแรง จากกลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม 404 ราย มี 44% ต้องการซื้อคอนโดฯ ขณะที่บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 35% และทาวน์เฮาส์ 15% ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และอื่น ๆ 6%
ศุภาลัยชน แอล.พี.เอ็น.ฯ
จากการสำรวจพบว่าบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่คือ "แอล.พี.เอ็น." และ "ศุภาลัย" มีแผนเปิดตัวคอนโดฯโครงการใหม่ปลายไตรมาส 2-4 นี้ในทำเลรัตนาธิเบศร์และติวานนท์ โดย แอล.พี.เอ็น.ฯจะเปิดตัวโครงการลุมพินีพาร์ค อยู่ระหว่างศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีและดิ เอสพลานาด ส่วน บมจ.ศุภาลัยจะเปิดตัวคอนโดฯใหม่ช่วงไตรมาส 4 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแยกติวานนท์ บนเนื้อที่ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาท
แหล่งข่าวจาก บมจ. แอล.พี.เอ็น. ดีเวลอปเมนท์ ระบุว่า ลุมพินีพาร์ค รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดฯไฮไรส์สูงกว่า 20 ชั้น 5 อาคาร บนเนื้อที่ 14 ไร่ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีศรีพรสวรรค์ 50 เมตร อยู่เยื้องลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ที่ปิดการขายไปแล้ว ราคาขายเริ่มต้นยูนิตละ 1.1 ล้านบาท จุดขายโครงการคือการออกแบบให้มีพื้นที่สวนภายในโครงการเพิ่มขึ้น
"ราคาที่ดินแถบรัตนาธิเบศร์ถือว่าขยับขึ้นเร็ว จากเมื่อ 4 ปีก่อนตารางวาละประมาณ 2-3 หมื่นบาท ปัจจุบันขยับเป็นตารางวาละกว่า 70,000-100,000 บาท"
คอนโดฯราคาต่ำผุดเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานทำเลรัตนาธิเบศร์เป็นหนึ่งในทำเลที่ บมจ.ศุภาลัยและ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ฯ บจ.นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ ปักธงโครงการประชันกัน เมื่อปี 2551 ค่าย แอล.พี.เอ็น.ฯเปิดตัว โครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ 2,000 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 25-41.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นยูนิตละกว่า 600,000 บาท ปัจจุบันปิดการขายแล้ว
ส่วนค่ายศุภาลัยได้เปิดตัวซิตี้โฮม รัตนาธิเบศร์ ในทำเลและช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สูง 24 ชั้น 2 อาคาร 1,232 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 30.5-50 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท ห่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีศรีพรสวรรค์ 330 เมตร ปัจจุบันมีห้องชุดเหลือขาย 9 ยูนิตสุดท้าย ราคายูนิตละ 1.28 ล้านบาท
นอกนั้นมีคอนโดฯเดอะ พาร์คแลนด์ งามวงศ์วาน - แคราย ของ บจ. นารายณ์ พร็อพเพอตี้ บริเวณสี่แยกแคราย จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีชมพู(แครายมีนบุรี-ศรีนครินทร์) เป็นอาคารสูง 28 ชั้น 635 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.36 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อต้นปีนี้ บมจ.แสนสิริได้เปิดตัวโครงการดีคอนโด รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดฯสร้างเสร็จก่อนขายโครงการแรกของแสนสิริ อยู่บริเวณเชิงสะพาน พระนั่งเกล้า ห่างสถานีไทรม้า 200 เมตร เป็นสูง 8 ชั้น 6 อาคาร 1,325 ยูนิต แบบ 1 ห้องนอน 28.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.6 แสน- 1.3 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60%
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 - 30 พ.ค. 2555
ความคึกคักการพัฒนาคอนโดฯ เป็นไปตามการขยายตัวของเมืองตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เชื่อมการเดินทางระหว่างใจกลางเมืองและชานเมือง และความต้องการซื้อคอนโดฯเป็นที่อยู่อาศัยหลังแรกที่ปัจจุบัน แซงหน้าบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จากผลวิจัยร่วมกันของ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และREIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ระบุว่าหลังน้ำท่วม "คอนโดฯ" มาแรง จากกลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม 404 ราย มี 44% ต้องการซื้อคอนโดฯ ขณะที่บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 35% และทาวน์เฮาส์ 15% ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และอื่น ๆ 6%
ศุภาลัยชน แอล.พี.เอ็น.ฯ
จากการสำรวจพบว่าบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่คือ "แอล.พี.เอ็น." และ "ศุภาลัย" มีแผนเปิดตัวคอนโดฯโครงการใหม่ปลายไตรมาส 2-4 นี้ในทำเลรัตนาธิเบศร์และติวานนท์ โดย แอล.พี.เอ็น.ฯจะเปิดตัวโครงการลุมพินีพาร์ค อยู่ระหว่างศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีและดิ เอสพลานาด ส่วน บมจ.ศุภาลัยจะเปิดตัวคอนโดฯใหม่ช่วงไตรมาส 4 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแยกติวานนท์ บนเนื้อที่ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาท
แหล่งข่าวจาก บมจ. แอล.พี.เอ็น. ดีเวลอปเมนท์ ระบุว่า ลุมพินีพาร์ค รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดฯไฮไรส์สูงกว่า 20 ชั้น 5 อาคาร บนเนื้อที่ 14 ไร่ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีศรีพรสวรรค์ 50 เมตร อยู่เยื้องลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ที่ปิดการขายไปแล้ว ราคาขายเริ่มต้นยูนิตละ 1.1 ล้านบาท จุดขายโครงการคือการออกแบบให้มีพื้นที่สวนภายในโครงการเพิ่มขึ้น
"ราคาที่ดินแถบรัตนาธิเบศร์ถือว่าขยับขึ้นเร็ว จากเมื่อ 4 ปีก่อนตารางวาละประมาณ 2-3 หมื่นบาท ปัจจุบันขยับเป็นตารางวาละกว่า 70,000-100,000 บาท"
คอนโดฯราคาต่ำผุดเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานทำเลรัตนาธิเบศร์เป็นหนึ่งในทำเลที่ บมจ.ศุภาลัยและ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ฯ บจ.นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ ปักธงโครงการประชันกัน เมื่อปี 2551 ค่าย แอล.พี.เอ็น.ฯเปิดตัว โครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ 2,000 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 25-41.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นยูนิตละกว่า 600,000 บาท ปัจจุบันปิดการขายแล้ว
ส่วนค่ายศุภาลัยได้เปิดตัวซิตี้โฮม รัตนาธิเบศร์ ในทำเลและช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สูง 24 ชั้น 2 อาคาร 1,232 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 30.5-50 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท ห่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีศรีพรสวรรค์ 330 เมตร ปัจจุบันมีห้องชุดเหลือขาย 9 ยูนิตสุดท้าย ราคายูนิตละ 1.28 ล้านบาท
นอกนั้นมีคอนโดฯเดอะ พาร์คแลนด์ งามวงศ์วาน - แคราย ของ บจ. นารายณ์ พร็อพเพอตี้ บริเวณสี่แยกแคราย จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีชมพู(แครายมีนบุรี-ศรีนครินทร์) เป็นอาคารสูง 28 ชั้น 635 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.36 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อต้นปีนี้ บมจ.แสนสิริได้เปิดตัวโครงการดีคอนโด รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดฯสร้างเสร็จก่อนขายโครงการแรกของแสนสิริ อยู่บริเวณเชิงสะพาน พระนั่งเกล้า ห่างสถานีไทรม้า 200 เมตร เป็นสูง 8 ชั้น 6 อาคาร 1,325 ยูนิต แบบ 1 ห้องนอน 28.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.6 แสน- 1.3 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60%
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 - 30 พ.ค. 2555