พลัสฯ >>เผยผลสำรวจตลาดอาคารสำนักงานฟื้นตัวหลังน้ำลด คาดปี 55 โตกว่า 7% พื้นที่กว่า 500,000 ตร.ม.จ่อเข้าตลาดสีลม สาทร สุขุมวิท เพลินจิต อโศก-รัชดา ยังครอง แชมป์ทำเลยอดนิยม ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 1-35% ชี้ความมั่นใจกลับมาจะสามารถดูดซับพื้นที่ ใหม่ๆ ที่กำลังเข้าสู่ตลาดได้
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าจากการสำรวจตลาดอาคารสำนักงานในปีที่ผ่านมา พบมีโครงการใหม่เกิดขึ้นเพียง1 อาคาร คือ โครงการพาร์ค เวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ จำนวน 27,000 ตารางเมตร ส่งผลให้มีพื้นที่อาคารสำนักงานสะสมในปัจจุบันจำนวน 7.641 ล้านตารางเมตร ลดลงจากปีที่ 2553 ประมาณ 1% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวจากภัยธรรมชาติ
โดยราคาค่าเช่าเฉลี่ยปี 2554 ปรับราคาเพิ่มขึ้น 4% หรือจาก 481 บาทต่อตารางเมตรเป็น 498 บาทต่อตารางเมตร เมื่อพิจารณาเป็นรายพื้นที่ พบว่า พื้นที่ธนบุรี นนทบุรี เพลินจิต-ชิดลม รัชดาภิเษก พญาไท และสุขุมวิท เพิ่มขึ้น 35%, 5%, 4%, 4%, 1% และ 0.3% ตามลำดับ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ปรับราคาลดลงเพียง 0.3-3% โดยพื้นที่สำนักงานเกรดเอ ปรับราคาเพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 640 บาทต่อตารางเมตร และเกรดบี ลดลง 4% มาอยู่ที่ 467 บาทต่อตารางเมตร
จากสถานการณ์ปัจจุบันภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปี 2554 นับว่ายังทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2553 แม้ต้อง เผชิญปัญหาอุทกภัยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
อย่างไรก็ตามยังพบว่าการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ มีการเติบโตได้เป็นระยะและพอจะเห็นความต้องการดูดซับได้ดีพอสมควร คาดการณ์ว่าในอนาคตตลาดอาคารสำนักงาน มีแนวโน้มขยายตัวอีกราว 7% หากโครงการก่อสร้างพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตรแล้วเสร็จ ในจำนวนนี้มีอาคาร KPI, อาคารอีควิน็อกซ์ เป็นต้น ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2555 ซึ่งคาดว่าความต้องการยังมีการดูดซับได้ เพราะภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังน้ำลด และการขยายกำลังการผลิตอาจจะยังไม่เติบโตมากนักใน 12 ปีนี้
สำหรับทิศทางและปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของตลาดอาคารสำนักงานในปี 2555 นายนุกูล กล่าวว่า การขยายตัวของตลาดยังคงค่อยเป็นค่อยไปส่วนใหญ่น่าจะเป็นการขยายพื้นที่ของสำนักงานเดิมหรือว่าย้ายไปเพื่อให้เดินทางสะดวกมากขึ้น โดยส่วนใหญ่คนมองหาทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า หรือสามารถเข้าถึงได้ง่าย ประหยัดพลังงาน ตึกในส่วนที่เป็นพื้นที่เก่าก็คงจะเป็นการปรับปรุงหรือปรับราคาเช่าเพื่อให้ดึงดูดผู้เช่าใหม่มากขึ้นแต่หากมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคพื้นอาเซียนประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการมาเปิดธุรกิจของบริษัทข้ามชาติ
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าจากการสำรวจตลาดอาคารสำนักงานในปีที่ผ่านมา พบมีโครงการใหม่เกิดขึ้นเพียง1 อาคาร คือ โครงการพาร์ค เวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ จำนวน 27,000 ตารางเมตร ส่งผลให้มีพื้นที่อาคารสำนักงานสะสมในปัจจุบันจำนวน 7.641 ล้านตารางเมตร ลดลงจากปีที่ 2553 ประมาณ 1% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวจากภัยธรรมชาติ
โดยราคาค่าเช่าเฉลี่ยปี 2554 ปรับราคาเพิ่มขึ้น 4% หรือจาก 481 บาทต่อตารางเมตรเป็น 498 บาทต่อตารางเมตร เมื่อพิจารณาเป็นรายพื้นที่ พบว่า พื้นที่ธนบุรี นนทบุรี เพลินจิต-ชิดลม รัชดาภิเษก พญาไท และสุขุมวิท เพิ่มขึ้น 35%, 5%, 4%, 4%, 1% และ 0.3% ตามลำดับ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ปรับราคาลดลงเพียง 0.3-3% โดยพื้นที่สำนักงานเกรดเอ ปรับราคาเพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 640 บาทต่อตารางเมตร และเกรดบี ลดลง 4% มาอยู่ที่ 467 บาทต่อตารางเมตร
จากสถานการณ์ปัจจุบันภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปี 2554 นับว่ายังทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2553 แม้ต้อง เผชิญปัญหาอุทกภัยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
อย่างไรก็ตามยังพบว่าการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ มีการเติบโตได้เป็นระยะและพอจะเห็นความต้องการดูดซับได้ดีพอสมควร คาดการณ์ว่าในอนาคตตลาดอาคารสำนักงาน มีแนวโน้มขยายตัวอีกราว 7% หากโครงการก่อสร้างพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตรแล้วเสร็จ ในจำนวนนี้มีอาคาร KPI, อาคารอีควิน็อกซ์ เป็นต้น ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2555 ซึ่งคาดว่าความต้องการยังมีการดูดซับได้ เพราะภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังน้ำลด และการขยายกำลังการผลิตอาจจะยังไม่เติบโตมากนักใน 12 ปีนี้
สำหรับทิศทางและปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของตลาดอาคารสำนักงานในปี 2555 นายนุกูล กล่าวว่า การขยายตัวของตลาดยังคงค่อยเป็นค่อยไปส่วนใหญ่น่าจะเป็นการขยายพื้นที่ของสำนักงานเดิมหรือว่าย้ายไปเพื่อให้เดินทางสะดวกมากขึ้น โดยส่วนใหญ่คนมองหาทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า หรือสามารถเข้าถึงได้ง่าย ประหยัดพลังงาน ตึกในส่วนที่เป็นพื้นที่เก่าก็คงจะเป็นการปรับปรุงหรือปรับราคาเช่าเพื่อให้ดึงดูดผู้เช่าใหม่มากขึ้นแต่หากมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคพื้นอาเซียนประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการมาเปิดธุรกิจของบริษัทข้ามชาติ
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ