"สยามฟิวเจอร์" ย้ำแผนลงทุนเดินหน้าขยายสาขาคอมมิวนิตีมอลล์ 2-3 แห่งต่อปี พร้อมจับมืออิคาโน่ ปักหมุด "เมกา นอร์ธ" ย่านรังสิต และ "เมกา เวสต์" ย่านบางใหญ่ เผยอัดงบตลาดเพิ่ม 20% จัดเต็มอีเวนต์-โปรโมชันรับค้าปลีกแข่งเดือด
นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารคอมมิวนิตี มอลล์รายใหญ่, เอสพลานาด และเมกา บางนา เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายการลงทุนค้าปลีกในรูปแบบคอมมิวนิตี มอลล์อีก 2-3 แห่งต่อปี โดยในปีนี้จะใช้งบลงทุนราว 250 ล้านบาท ในการพัฒนาคอมมิวนิตี มอลล์ 2 แห่ง ได้แก่ คอนโดมิเนียม แอลพีเอ็น ทาวน์ ชิบ รังสิต คลอง 1 และอีกแห่งจะอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้บริษัทยังปรับปรุงศูนย์การค้าเอสพลานาด ซึ่งเปิดให้บริการย่างเข้าปีที่ 7 ให้มีความทันสมัยและตอกย้ำความเป็นอาร์ต แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์
โดยล่าสุดใช้งบลงทุนกว่า 55 ล้านบาท ในการรีโนเวต พร้อมปรับพื้นที่ภายใน โดยเพิ่ม 5 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ จากประเทศเกาหลี, วี ฟิตเนส โซไซตี้, ร้านอาหารซับเวย์, ร้านง้วนหลังวัง,ร้านบอนชอน ชิกเก้น และร้านเคลลี่ บาย ออเดรย์ (Kelly by Audrey) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ที่สนใจการใช้เทคโนโลยีในการอัพเดตกิจกรรม ผ่านสื่อออนไลน์
"ปัจจุบันเอสพลานาด รัชดา มีทั้งร้านค้าและธุรกิจบันเทิงรวมกว่า 120 ร้าน รองรับผู้มาใช้บริการได้กว่า 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งการรีเฟรชแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มได้ 4 พันคนต่อวันและสร้างรายได้ให้กับศูนย์การค้ากว่า 1 ล้านบาทต่อวัน"
ด้านนางณัฐรินทร์ พยุงวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานขายและการตลาด กล่าวว่า นอกจากการรีโนเวตเอสพลานาดแล้ว บริษัทยังมีแผนรีโนเวตคอมมิวนิตี มอลล์ อีก 3 แห่ง ได้แก่ มาร์เก็ตเพลส สาขาประชานุกูล, สุขาภิบาล 3 และบางบอนเพื่อให้ทันสมัยหลังจากที่เปิดให้บริการมานาน อีกทั้งปัจจุบันพบว่ามีคู่แข่งเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงต้องปรับให้สามารถแข่งขันได้
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทจะกลับมาขยายการลงทุนในคอมมิวนิตี มอลล์ อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ลงทุนโครงการใหม่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งในปัจจุบันพบว่ามีผู้ประกอบการหน้าใหม่ หันมาพัฒนาคอมมิวนิตี มอลล์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่ง ขันที่รุนแรง ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาด ด้วยการเพิ่มการจัดกิจกรรมพิเศษหรืออีเวนต์ รวมไปถึงการจัดโปรโมชันเพื่อสร้างบรรยากาศและดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ โดยในปีนี้บริษัทจัดสรรงบประมาณในการทำการตลาดเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน
"ขณะนี้เรามีคู่แข่งอยู่ในเกือบทุกทำเล และในปีนี้เชื่อว่าจะยังมีผู้ประกอบการใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งจากในแวดวงค้าปลีกเอง รวมไปถึงเจ้าของที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดินก็หันมาพัฒนาเป็นคอมมิวนิตี มอลล์ ทำให้เชื่อว่าการแข่งขันจะรุนแรง แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับทำเล และการคัดเลือกร้านค้าที่ตรงกับความต้องการของชุมชนด้วย"
อย่างไรก็ดี สำหรับสยามฟิวเจอร์ ยังร่วมมือกับอิคาโน่ จากประ เทศสวีเดน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ร่วมกันลงทุนพัฒนา เมกา บางนา ในการพัฒนาบิ๊กโปรเจ็กต์ต่อเนื่อง โดยล่า สุดเริ่มพัฒนาที่ดินบริเวณรังสิต คลอง 5 บนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เป็นเมกา นอร์ธ คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการก่อสร้าง 2-3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันยังมีการพัฒนา ที่ดินบริเวณบางใหญ่ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ให้เป็นโครงการเมกา เวสต์ ซึ่งทั้ง หมดถือเป็นแผนการลงทุนระยะยาว 3-5 ปีที่สยามฟิวเจอร์กำหนดไว้
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
โดยล่าสุดใช้งบลงทุนกว่า 55 ล้านบาท ในการรีโนเวต พร้อมปรับพื้นที่ภายใน โดยเพิ่ม 5 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ จากประเทศเกาหลี, วี ฟิตเนส โซไซตี้, ร้านอาหารซับเวย์, ร้านง้วนหลังวัง,ร้านบอนชอน ชิกเก้น และร้านเคลลี่ บาย ออเดรย์ (Kelly by Audrey) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ที่สนใจการใช้เทคโนโลยีในการอัพเดตกิจกรรม ผ่านสื่อออนไลน์
"ปัจจุบันเอสพลานาด รัชดา มีทั้งร้านค้าและธุรกิจบันเทิงรวมกว่า 120 ร้าน รองรับผู้มาใช้บริการได้กว่า 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งการรีเฟรชแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มได้ 4 พันคนต่อวันและสร้างรายได้ให้กับศูนย์การค้ากว่า 1 ล้านบาทต่อวัน"
ด้านนางณัฐรินทร์ พยุงวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานขายและการตลาด กล่าวว่า นอกจากการรีโนเวตเอสพลานาดแล้ว บริษัทยังมีแผนรีโนเวตคอมมิวนิตี มอลล์ อีก 3 แห่ง ได้แก่ มาร์เก็ตเพลส สาขาประชานุกูล, สุขาภิบาล 3 และบางบอนเพื่อให้ทันสมัยหลังจากที่เปิดให้บริการมานาน อีกทั้งปัจจุบันพบว่ามีคู่แข่งเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงต้องปรับให้สามารถแข่งขันได้
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทจะกลับมาขยายการลงทุนในคอมมิวนิตี มอลล์ อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ลงทุนโครงการใหม่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งในปัจจุบันพบว่ามีผู้ประกอบการหน้าใหม่ หันมาพัฒนาคอมมิวนิตี มอลล์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่ง ขันที่รุนแรง ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาด ด้วยการเพิ่มการจัดกิจกรรมพิเศษหรืออีเวนต์ รวมไปถึงการจัดโปรโมชันเพื่อสร้างบรรยากาศและดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ โดยในปีนี้บริษัทจัดสรรงบประมาณในการทำการตลาดเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน
"ขณะนี้เรามีคู่แข่งอยู่ในเกือบทุกทำเล และในปีนี้เชื่อว่าจะยังมีผู้ประกอบการใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งจากในแวดวงค้าปลีกเอง รวมไปถึงเจ้าของที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดินก็หันมาพัฒนาเป็นคอมมิวนิตี มอลล์ ทำให้เชื่อว่าการแข่งขันจะรุนแรง แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับทำเล และการคัดเลือกร้านค้าที่ตรงกับความต้องการของชุมชนด้วย"
อย่างไรก็ดี สำหรับสยามฟิวเจอร์ ยังร่วมมือกับอิคาโน่ จากประ เทศสวีเดน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ร่วมกันลงทุนพัฒนา เมกา บางนา ในการพัฒนาบิ๊กโปรเจ็กต์ต่อเนื่อง โดยล่า สุดเริ่มพัฒนาที่ดินบริเวณรังสิต คลอง 5 บนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เป็นเมกา นอร์ธ คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการก่อสร้าง 2-3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันยังมีการพัฒนา ที่ดินบริเวณบางใหญ่ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ให้เป็นโครงการเมกา เวสต์ ซึ่งทั้ง หมดถือเป็นแผนการลงทุนระยะยาว 3-5 ปีที่สยามฟิวเจอร์กำหนดไว้
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ