โครงสร้างประชากรถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ดีเวลอปเปอร์หยิบมาเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาโครงการ อย่างในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้ ที่จะพบทิศทางของการขยายตัวกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มักครองตัวเป็นโสด
หรือไม่ก็อยู่อาศัยด้วยกันโดยไม่มีลูกเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ออกมารองรับกับกลุ่มคนเหล่านี้ เมื่อรวมกับปัจจัยด้านอื่น เช่น ระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาเมือง ก็ยิ่งเป็นปัจจัยทำให้ทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยต้องสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นด้วย
หากดูโครงสร้างประชากรไทยในปัจจุบัน ก็จะพบว่า "กลุ่มผู้สูงอายุ" ขยายตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุปัจจัยสำคัญคงเป็นเพราะการดูแลตัวเองที่ดีมากขึ้น วิทยาการด้านสาธารณสุขมีความก้าวหน้า คุณภาพชีวิตของคนจึงดีขึ้น อายุเฉลี่ยของคนจึงมีเพิ่มมากขึ้น กลุ่มเหล่านี้ถูกจับตามองจากนักการตลาดทั้งหลายแทบจะทุกธุรกิจ เพราะไม่เพียงแต่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปีแล้ว ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอีกด้วย หากพิจารณาในแวดวงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็พบว่าเริ่มมีผู้ประกอบการที่หันมาให้ความสำคัญและสนใจกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น เพราะการที่บริษัทจะสร้างการเติบโตกับกลุ่มเป้าหมายเดิมๆ อาจจะขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีเหลืออยู่จึงไม่ควรถูกละเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในปีนี้ จะได้เห็นการพัฒนาโครงการเพื่อจับตลาด "ผู้สูงอายุ"
แนวคิดบ้าน3Gen
กลุ่มบริษัทกานดากรุ๊ปฯ ที่พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ บ้านเฟิร์ส โฮม, บ้านกานดา เป็นต้น ของนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้เริ่มต้นการพัฒนาบ้านภายใต้แนวคิด 3Generation ที่เป็นบ้านขนาด 4 ห้องนอน โดยมี 1 ห้องนอนอยู่ชั้นล่าง เพื่อเป็นห้องรองรับกับผู้สูงอายุเป็นหลัก โดยเริ่มต้นแนวคิดดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปี 2547-2548 ด้วยเห็นทิศทางตลาดที่พบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แม้จะอยู่กัน 2 คนแต่ระยะเวลาหนึ่งก็มักจะมีลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะขาดคนดูแลและกำลังเป็นปัญหาสำคัญ เพราะกลุ่มคนหลักที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ล้วนแต่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาเพื่อทำงาน ดังนั้นเมื่อครอบครัวเริ่มขยาย ความจำเป็นที่จะต้องมีผู้ดูแลเด็กจึงเกิดขึ้น ห้องชั้นล่างจึงถูกใช้ประโยชน์เพื่อเป็นห้องนอน จากการสำรวจจากโครงการที่ขายไปกว่า 3,000 ยูนิต พบว่ากว่า 70% ถูกใช้เป็นห้องนอนจริง ทั้งห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ห้องนอนดูแลเด็ก หรือห้องนอนสำหรับแขกที่มาเยี่ยม ส่วนที่เหลือใช้เป็นห้องเพื่อประโยชน์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มบริษัทกานดา กรุ๊ปฯ เชื่อว่าการที่ห้องชั้นล่างจะถูกนำมาใช้เพื่อเป็นห้องนอนผู้สูงอายุนั้น มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้สูงอายุที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี การพัฒนาโครงการของบริษัทในปีนี้ทุกโครงการและทุกระดับราคาที่มีรวมกว่า 2,500 ยูนิตนั้น จะเป็นแบบบ้านในแนวคิด 3Generation ทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่สวนทางกับตลาดคอนโดฯ ก็ตาม แต่ด้วยความเชื่อที่ว่าครอบครัวขยายเพิ่มขึ้น การอยู่คอนโดฯ อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมถึงการที่คนหนุ่มสาวต้องหาคนดูแลลูกจึงจำเป็นที่จะต้องมีที่พักรองรับกับผู้ที่จะมาดูแลด้วยเช่นกัน
Family Zoneเพื่อผู้สูงอายุ
ด้านบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าพ่อตลาดคอนโดฯ ที่นำเสนอแนวคิดใหม่เสมอในตลาดคอนโดฯ ปีนี้ก็มีการผสานแนวคิดของกลุ่มคน 3 รุ่น ได้แก่ ปู่-ย่า, ตา-ยาย, พ่อ-แม่ และหลาน มาอยู่ร่วมกันแม้จะเป็นโครงการคอนโดฯ ก็ตาม โดยใช้แนวคิด "FAMILY ZONE" ที่ได้ผสานความสมดุล ระหว่างวิถีชีวิตที่ดูแล ห่วงใยและแบ่งปันความสุข กับ วิถีชีวิตคนเมืองปัจจุบันที่มีความเร่งรีบ ด้วยการออกแบบ family zone ให้เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับครอบครัว ซึ่งมีเฉพาะชั้น 4-5-6 เฉพาะโครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ซึ่งเป็นโครงการแรกที่ ลองชิมลาง โครงการดังกล่าวสานสายใยของคน 3 วัยไว้ด้วยกัน ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการ ที่สามารถรองรับคนในแต่ละวัย ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ดูแล และห่วงใย "สะดวก สบาย เป็นอิสระ ที่นี่ จะทำให้ทุกวันของครอบครัวมีแต่ความอบอุ่นและมีความสุข ด้วยกลิ่นอายของวิถีชีวิตไทย ๆ ที่แวดล้อมด้วยสังคมเมืองใหม่ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ให้บริการทางด้านสุขภาพ การดำเนินชีวิต และนันทนาการ จากทีมงานบริหารชุมชนที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี และความร่วมมือจากพันธมิตรทางด้านการแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ
ดีไซน์เพื่อคนในครอบครัว
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล้อปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ก็เป็นหนึ่งบริษัทที่ชูแนวคิดการอยู่อาศัยของคน 3 รุ่น โดยเน้นหลักการออกแบบเพื่อทุกคน( (Universal design) เพื่อเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันของคนทุกวัย ที่ผ่านมาบริษัทแมกโนเลียฯ ได้นำความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้ไปใช้จริงในโครงการหมู่บ้านแมกโนเลีย เซ้าเทิร์น แคลิฟอร์เนีย บางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 แล้วด้วย โดยมี ดร.สฤกกา พงษ์สุวรรณ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท ดีไอ ดีไซนส์ จำกัด ได้ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนา การออกแบบที่พักอาศัยที่สามารถตอบสนองและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และนำความรู้ที่ได้มาใช้กับโครงการต่างๆของบริษัท แมกโนเลียฯ
โดยพื้นที่ใช้สอยสำหรับที่พักอาศัยของผู้สูงอายุที่ควรคำนึงถึง เริ่มตั้งแต่พื้นบ้าน พื้นควรเรียบเสมอกัน ไม่มียกพื้นต่างระดับหรือธรณีประตู วัสดุพื้นผิวต้องไม่ลื่น แสงสว่างต้องเพียงพอต่อการมองเห็นชัดเจน มีทางลาดให้รถเข็นขึ้นลงอย่างสะดวก หากบ้านเรามีผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็น ทางเดินต้องมีราวจับเพื่อช่วยพยุงตัว เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โต๊ะ เตียง ตู้ ควรวางอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีส่วนใดยื่นออกมาเกะกะ สีทาบ้านที่เหมาะสมควรเป็นสีที่สดใส นุ่มนวล เนื่องจากมีผลต่อความกระชุ่มกระชวยของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุบางคนไม่ได้อยู่กับคู่สมรส เนื่องจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียชีวิต แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะย้ายจากบ้านเดิม ทำเลที่ตั้งบ้านจึงต้องไม่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ใกล้สถานพยาบาล และญาติมิตรสามารถเดินทางไปมาหาสู่ได้อย่างสะดวก
ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าภายในอีก 10 ปีข้างหน้าบ้านเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ แนวโน้มการขยายตัวของการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองผู้สูงอายุจึงปรากฏชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและมีการศึกษาดี ผู้ประกอบการด้านวัสดุตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ ฯลฯ ต่างก็ยอมรับและหันมาให้ความสนใจที่จะผลิตสินค้าเพื่อรองรับกลุ่มบริษัทที่สร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
หรือไม่ก็อยู่อาศัยด้วยกันโดยไม่มีลูกเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ออกมารองรับกับกลุ่มคนเหล่านี้ เมื่อรวมกับปัจจัยด้านอื่น เช่น ระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาเมือง ก็ยิ่งเป็นปัจจัยทำให้ทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยต้องสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นด้วย
หากดูโครงสร้างประชากรไทยในปัจจุบัน ก็จะพบว่า "กลุ่มผู้สูงอายุ" ขยายตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุปัจจัยสำคัญคงเป็นเพราะการดูแลตัวเองที่ดีมากขึ้น วิทยาการด้านสาธารณสุขมีความก้าวหน้า คุณภาพชีวิตของคนจึงดีขึ้น อายุเฉลี่ยของคนจึงมีเพิ่มมากขึ้น กลุ่มเหล่านี้ถูกจับตามองจากนักการตลาดทั้งหลายแทบจะทุกธุรกิจ เพราะไม่เพียงแต่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปีแล้ว ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอีกด้วย หากพิจารณาในแวดวงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็พบว่าเริ่มมีผู้ประกอบการที่หันมาให้ความสำคัญและสนใจกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น เพราะการที่บริษัทจะสร้างการเติบโตกับกลุ่มเป้าหมายเดิมๆ อาจจะขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีเหลืออยู่จึงไม่ควรถูกละเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในปีนี้ จะได้เห็นการพัฒนาโครงการเพื่อจับตลาด "ผู้สูงอายุ"
แนวคิดบ้าน3Gen
กลุ่มบริษัทกานดากรุ๊ปฯ ที่พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ บ้านเฟิร์ส โฮม, บ้านกานดา เป็นต้น ของนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้เริ่มต้นการพัฒนาบ้านภายใต้แนวคิด 3Generation ที่เป็นบ้านขนาด 4 ห้องนอน โดยมี 1 ห้องนอนอยู่ชั้นล่าง เพื่อเป็นห้องรองรับกับผู้สูงอายุเป็นหลัก โดยเริ่มต้นแนวคิดดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปี 2547-2548 ด้วยเห็นทิศทางตลาดที่พบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แม้จะอยู่กัน 2 คนแต่ระยะเวลาหนึ่งก็มักจะมีลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะขาดคนดูแลและกำลังเป็นปัญหาสำคัญ เพราะกลุ่มคนหลักที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ล้วนแต่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาเพื่อทำงาน ดังนั้นเมื่อครอบครัวเริ่มขยาย ความจำเป็นที่จะต้องมีผู้ดูแลเด็กจึงเกิดขึ้น ห้องชั้นล่างจึงถูกใช้ประโยชน์เพื่อเป็นห้องนอน จากการสำรวจจากโครงการที่ขายไปกว่า 3,000 ยูนิต พบว่ากว่า 70% ถูกใช้เป็นห้องนอนจริง ทั้งห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ห้องนอนดูแลเด็ก หรือห้องนอนสำหรับแขกที่มาเยี่ยม ส่วนที่เหลือใช้เป็นห้องเพื่อประโยชน์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มบริษัทกานดา กรุ๊ปฯ เชื่อว่าการที่ห้องชั้นล่างจะถูกนำมาใช้เพื่อเป็นห้องนอนผู้สูงอายุนั้น มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้สูงอายุที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี การพัฒนาโครงการของบริษัทในปีนี้ทุกโครงการและทุกระดับราคาที่มีรวมกว่า 2,500 ยูนิตนั้น จะเป็นแบบบ้านในแนวคิด 3Generation ทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่สวนทางกับตลาดคอนโดฯ ก็ตาม แต่ด้วยความเชื่อที่ว่าครอบครัวขยายเพิ่มขึ้น การอยู่คอนโดฯ อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมถึงการที่คนหนุ่มสาวต้องหาคนดูแลลูกจึงจำเป็นที่จะต้องมีที่พักรองรับกับผู้ที่จะมาดูแลด้วยเช่นกัน
Family Zoneเพื่อผู้สูงอายุ
ด้านบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าพ่อตลาดคอนโดฯ ที่นำเสนอแนวคิดใหม่เสมอในตลาดคอนโดฯ ปีนี้ก็มีการผสานแนวคิดของกลุ่มคน 3 รุ่น ได้แก่ ปู่-ย่า, ตา-ยาย, พ่อ-แม่ และหลาน มาอยู่ร่วมกันแม้จะเป็นโครงการคอนโดฯ ก็ตาม โดยใช้แนวคิด "FAMILY ZONE" ที่ได้ผสานความสมดุล ระหว่างวิถีชีวิตที่ดูแล ห่วงใยและแบ่งปันความสุข กับ วิถีชีวิตคนเมืองปัจจุบันที่มีความเร่งรีบ ด้วยการออกแบบ family zone ให้เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับครอบครัว ซึ่งมีเฉพาะชั้น 4-5-6 เฉพาะโครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ซึ่งเป็นโครงการแรกที่ ลองชิมลาง โครงการดังกล่าวสานสายใยของคน 3 วัยไว้ด้วยกัน ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการ ที่สามารถรองรับคนในแต่ละวัย ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ดูแล และห่วงใย "สะดวก สบาย เป็นอิสระ ที่นี่ จะทำให้ทุกวันของครอบครัวมีแต่ความอบอุ่นและมีความสุข ด้วยกลิ่นอายของวิถีชีวิตไทย ๆ ที่แวดล้อมด้วยสังคมเมืองใหม่ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ให้บริการทางด้านสุขภาพ การดำเนินชีวิต และนันทนาการ จากทีมงานบริหารชุมชนที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี และความร่วมมือจากพันธมิตรทางด้านการแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ
ดีไซน์เพื่อคนในครอบครัว
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล้อปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ก็เป็นหนึ่งบริษัทที่ชูแนวคิดการอยู่อาศัยของคน 3 รุ่น โดยเน้นหลักการออกแบบเพื่อทุกคน( (Universal design) เพื่อเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันของคนทุกวัย ที่ผ่านมาบริษัทแมกโนเลียฯ ได้นำความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้ไปใช้จริงในโครงการหมู่บ้านแมกโนเลีย เซ้าเทิร์น แคลิฟอร์เนีย บางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 แล้วด้วย โดยมี ดร.สฤกกา พงษ์สุวรรณ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท ดีไอ ดีไซนส์ จำกัด ได้ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนา การออกแบบที่พักอาศัยที่สามารถตอบสนองและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และนำความรู้ที่ได้มาใช้กับโครงการต่างๆของบริษัท แมกโนเลียฯ
โดยพื้นที่ใช้สอยสำหรับที่พักอาศัยของผู้สูงอายุที่ควรคำนึงถึง เริ่มตั้งแต่พื้นบ้าน พื้นควรเรียบเสมอกัน ไม่มียกพื้นต่างระดับหรือธรณีประตู วัสดุพื้นผิวต้องไม่ลื่น แสงสว่างต้องเพียงพอต่อการมองเห็นชัดเจน มีทางลาดให้รถเข็นขึ้นลงอย่างสะดวก หากบ้านเรามีผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็น ทางเดินต้องมีราวจับเพื่อช่วยพยุงตัว เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โต๊ะ เตียง ตู้ ควรวางอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีส่วนใดยื่นออกมาเกะกะ สีทาบ้านที่เหมาะสมควรเป็นสีที่สดใส นุ่มนวล เนื่องจากมีผลต่อความกระชุ่มกระชวยของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุบางคนไม่ได้อยู่กับคู่สมรส เนื่องจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียชีวิต แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะย้ายจากบ้านเดิม ทำเลที่ตั้งบ้านจึงต้องไม่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ใกล้สถานพยาบาล และญาติมิตรสามารถเดินทางไปมาหาสู่ได้อย่างสะดวก
ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าภายในอีก 10 ปีข้างหน้าบ้านเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ แนวโน้มการขยายตัวของการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองผู้สูงอายุจึงปรากฏชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและมีการศึกษาดี ผู้ประกอบการด้านวัสดุตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ ฯลฯ ต่างก็ยอมรับและหันมาให้ความสนใจที่จะผลิตสินค้าเพื่อรองรับกลุ่มบริษัทที่สร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555