สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เปิดแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปี 55 นำที่ดินทำเลงามบริเวณซอยพิพัฒน์ และสี่แยกราชเทวีสรรหาผู้พัฒนา พร้อมเตรียมทุบทิ้งตลาดเฉลิมลาภนำมาพัฒนาใหม่ หลังเปิดใช้มากว่า 30 ปี โดยให้สิทธิผู้เช่าเดิมก่อนหลังพัฒนาเสร็จ ขณะที่ที่ดินบริเวณบางกอกบาซาร์เดิมได้ผู้รับเหมาแล้ว อยู่ระหว่างออกแบบพัฒนาเป็นศูนย์การค้า โรงแรม และอาคารที่พักอาศัย
นายสมบูรณ์ ชัยเดชสุริยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยถึงแผนงานด้านอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ว่า มีพื้นที่ที่รอการสรรหาผู้พัฒนา ได้แก่ ที่ดินบริเวณซอยพิพัฒน์ เนื้อที่ประมาณ 302.8 ตารางวา โดยมีการประกาศเชิญชวนผู้สนใจตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม -9 พฤษภาคม 2555 โดยให้ยื่นข้อเสนอโครงการ 10 พฤษภาคม- 21 มิถุนายน 2555 และจะทราบผลภายในเดือนกันยายน 2555 และที่ดินบริเวณสี่แยกราชเทวี เนื้อที่ 2 ไร่เศษ อยู่ระหว่างรอรับคืนจากผู้เช่าอีก 2 ราย จากนั้นจะเริ่มกระบวนการสรรหาผู้พัฒนา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกระบวนการในปลายปีนี้ ซึ่งไม่ได้วางแผนว่าจะพัฒนาเป็นอะไร แต่พื้นที่บริเวณนี้สามารถพัฒนาเป็นอาคารสูงได้
ส่วนอีกแปลงหนึ่งเป็นพื้นที่ที่เตรียมแจ้งผู้เช่าปัจจุบัน เพื่อนำมาพัฒนาใหม่ คือ ที่ดินบริเวณตลาดเฉลิมลาภ หัวมุมถนนราชปรารถตัดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เหตุที่ต้องพัฒนาใหม่ เพราะพื้นที่บริเวณตลาดเฉลิมลาภได้ถูกใช้ประโยชน์มานานกว่า 30 ปี ปัจจุบันพื้นที่หลายส่วนมีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา ระบบสาธารณูปโภคต่างๆอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสม แถมพื้นที่บางส่วนถูกต่อเติมอย่างไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของส่วนราชการ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้สำนักงานทรัพย์สินฯจึงมีนโยบายที่จะนำพื้นที่บริเวณดังกล่าวมาพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ โดยแนวโน้มการพัฒนาจะให้รองรับกับผู้เช่าเดิม โดยกำหนดเป้าหมายในการได้รับมอบพื้นที่ให้เสร็จภายในสิ้นปี 2555 ซึ่งในเบื้องต้นจะเริ่มส่งหนังสือแจ้งยุติการใช้พื้นที่ได้ในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อขอความร่วมมือให้ผู้เช่าส่งมอบสถานที่เช่าคืน พร้อมกันนี้จะเริ่มกระบวนการสรรหาผู้พัฒนาไปพร้อมๆกัน เพื่อว่าระหว่างการพัฒนา ซึ่งอาจกินเวลาประมาณ 3 ปี ผู้เช่าเดิมจะได้มีพื้นที่ชั่วคราวรองรับการทำมาหากินในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ห่างไกลมากนัก
ทั้งนี้สำนักงานทรัพย์สินฯได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าเดิม คือ 1.บอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 8 เดือนให้ผู้เช่าทราบถึงการขอสถานที่คืนกลับมาพัฒนา 2.มอบเงินช่วยเหลือและค่าขนย้ายให้กับผู้เช่าที่ให้ความร่วมมือส่งมอบสถานที่เช่าคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะแบ่งตามทำเล ประเภท และขนาดพื้นที่เช่า เพื่อให้ผู้เช่านำไปเป็นทุนในการหาที่อยู่หรือที่ทำกินระหว่างการพัฒนา และ3 มอบคูปองส่วนลดที่มีมูลค่าเท่ากับเงินส่วนเหลือ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการกลับเข้ามาภายหลังการพัฒนาพื้นที่แล้วเสร็จ โดยให้สิทธิผู้เช่าเดิมก่อน
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีความคืบหน้า คือ บริเวณพื้นที่บางกอกบาซาร์เดิม โดยได้คัดเลือกผู้พัฒนา คือ บริษัท เอส.พี.ที.แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ โดยรูปแบบจะประกอบด้วยศูนย์การค้า สำนักงาน สถานฝึกอบรม สถานสันทนาการ โรงแรมและอาคารพักอาศัยให้เช่า เนื้อที่รวมประมาณ 165,319 ตารางเมตร คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และที่ดินบริเวณสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯใกล้สี่แยกราชประสงค์ ผู้ได้สิทธิพัฒนา คือ บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เลสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยจะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย โรงแรม และร้านค้าพาณิชย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2557
นอกจากนี้ยังมีโครงการนำที่ดินบริเวณถนนหลังสวน ประมาณ 60 ไร่ ตั้งแต่หลังสวนซอย 1 ไปจดกับถนนสารสิน พัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยโครงการนำร่องที่จะดำเนินการพัฒนาเองทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้างโครงการ โดยบริษัทในเครือ จะเริ่มเฟสแรกบริเวณหลังสวน ซอย 1 ซึ่งโครงการนี้เมื่อเปิดตัว เชื่อว่าจะเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ และจะเป็นโครงการนำร่องที่ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการอื่นๆต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 18-21 มีนาคม พ.ศ. 2555
ส่วนอีกแปลงหนึ่งเป็นพื้นที่ที่เตรียมแจ้งผู้เช่าปัจจุบัน เพื่อนำมาพัฒนาใหม่ คือ ที่ดินบริเวณตลาดเฉลิมลาภ หัวมุมถนนราชปรารถตัดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เหตุที่ต้องพัฒนาใหม่ เพราะพื้นที่บริเวณตลาดเฉลิมลาภได้ถูกใช้ประโยชน์มานานกว่า 30 ปี ปัจจุบันพื้นที่หลายส่วนมีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา ระบบสาธารณูปโภคต่างๆอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสม แถมพื้นที่บางส่วนถูกต่อเติมอย่างไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของส่วนราชการ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้สำนักงานทรัพย์สินฯจึงมีนโยบายที่จะนำพื้นที่บริเวณดังกล่าวมาพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ โดยแนวโน้มการพัฒนาจะให้รองรับกับผู้เช่าเดิม โดยกำหนดเป้าหมายในการได้รับมอบพื้นที่ให้เสร็จภายในสิ้นปี 2555 ซึ่งในเบื้องต้นจะเริ่มส่งหนังสือแจ้งยุติการใช้พื้นที่ได้ในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อขอความร่วมมือให้ผู้เช่าส่งมอบสถานที่เช่าคืน พร้อมกันนี้จะเริ่มกระบวนการสรรหาผู้พัฒนาไปพร้อมๆกัน เพื่อว่าระหว่างการพัฒนา ซึ่งอาจกินเวลาประมาณ 3 ปี ผู้เช่าเดิมจะได้มีพื้นที่ชั่วคราวรองรับการทำมาหากินในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ห่างไกลมากนัก
ทั้งนี้สำนักงานทรัพย์สินฯได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าเดิม คือ 1.บอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 8 เดือนให้ผู้เช่าทราบถึงการขอสถานที่คืนกลับมาพัฒนา 2.มอบเงินช่วยเหลือและค่าขนย้ายให้กับผู้เช่าที่ให้ความร่วมมือส่งมอบสถานที่เช่าคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะแบ่งตามทำเล ประเภท และขนาดพื้นที่เช่า เพื่อให้ผู้เช่านำไปเป็นทุนในการหาที่อยู่หรือที่ทำกินระหว่างการพัฒนา และ3 มอบคูปองส่วนลดที่มีมูลค่าเท่ากับเงินส่วนเหลือ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการกลับเข้ามาภายหลังการพัฒนาพื้นที่แล้วเสร็จ โดยให้สิทธิผู้เช่าเดิมก่อน
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีความคืบหน้า คือ บริเวณพื้นที่บางกอกบาซาร์เดิม โดยได้คัดเลือกผู้พัฒนา คือ บริษัท เอส.พี.ที.แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ โดยรูปแบบจะประกอบด้วยศูนย์การค้า สำนักงาน สถานฝึกอบรม สถานสันทนาการ โรงแรมและอาคารพักอาศัยให้เช่า เนื้อที่รวมประมาณ 165,319 ตารางเมตร คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และที่ดินบริเวณสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯใกล้สี่แยกราชประสงค์ ผู้ได้สิทธิพัฒนา คือ บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เลสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยจะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย โรงแรม และร้านค้าพาณิชย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2557
นอกจากนี้ยังมีโครงการนำที่ดินบริเวณถนนหลังสวน ประมาณ 60 ไร่ ตั้งแต่หลังสวนซอย 1 ไปจดกับถนนสารสิน พัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยโครงการนำร่องที่จะดำเนินการพัฒนาเองทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้างโครงการ โดยบริษัทในเครือ จะเริ่มเฟสแรกบริเวณหลังสวน ซอย 1 ซึ่งโครงการนี้เมื่อเปิดตัว เชื่อว่าจะเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ และจะเป็นโครงการนำร่องที่ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการอื่นๆต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 18-21 มีนาคม พ.ศ. 2555